172.ควยบ้านนอก 1

ควยบ้านนอก 1

เวลา 13.00 น. ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของผู้คนที่แห่แหนเดินทางเข้าและออกอยู่ตลอดเวลา เฒ่าสิงห์และจันทร์แรมลูกสาวอายุ 16 ปี ช่วยกันหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากขบวนรถไฟ


ทั้ง 2 คนเดินทางจากถิ่นฐานบ้านเกิดที่โคราชหวังมาหางานทำที่เมืองหลวง เพราะเป็นช่วงว่างเว้นจากการทำนา จะว่าไปเรียกว่าเฒ่าสิงห์ก็คงจะไม่ถูกเท่าไหร่นัก เพราะแกเพิ่งจะอายุ 58 เท่านั้น ส่วนจันทร์แรมเป็นลูกสาวคนเล็กในจำนวนลูกทั้ง 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน ทั้งพี่ชายพี่สาวของจันทร์ต่างแต่งงานมีครอบครัวแยกย้ายออกไปทำมาหากินมีลูกมีหลานหมดแล้ว

เหลือเพียงจันทร์ที่เรียนจบแค่ ม. 3 อยู่ช่วยพ่อทำนา และงานบ้านเล็กน้อยๆ แทนดวงตาแม่ของเธอที่เสียไปเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่ออยู่กันแค่ 2 คน นายสิงห์ก็ไม่อยากจะทำนาต่อเพราะมีแกกับลูกสาวแค่ 2 คน ครั้นจะจ้างคนอื่นมาช่วยทำมันก็กลัวว่าจะได้ไม่คุ้มเสียจึงตกลงใจให้คนอื่นเช่าที่นาของตน พร้อมกับรวบรวมเงินทองให้เพื่อนบ้านดูแลบ้านช่องแทน แล้วพาลูกสาวเข้ามาหางานทำที่นี่

ทั้ง 2 หยุดยืนที่หน้าทางเข้าสถานีรถไฟ ด้วยความที่เพิ่งเข้ามาที่ กทม. แค่ 2 ครั้งในชีวิต ถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่องเปลี่ยนแปลงไปมาก สิงห์ผู้เป็นพ่อควักกระดาษเล็กๆ ออกจากกระเป๋ากางเกง ซึ่งมันก็คือแผนที่ที่เพื่อนของแกให้มา

“พ่อ คืนนี้เราจะไปพักกันที่ไหนคะ”
“เอ่อ…. เดี๋ยวพ่อขอดูแผนที่ก่อน ตาแสนเพื่อนพ่อให้มา ถ้ามา กทม. ก็ให้ไปพักกับเขาคืนหนึ่งได้เลย”
“แล้วเขาจะมีงานอะไรให้เราทำละพ่อ”
“มีสิ ตาแสนเขาจะช่วยฝากเราให้ทำงานที่นี่”
“งานอะไรหรือคะ”
“พ่อก็ยังไม่รู้หรอก แต่ไว้ไปถึงก็รู้เองแหละ”
…………………………………………………………………………………………………..
2 พ่อลูกลงรถที่ป้ายรถประจำทางแถวย่านบางเขน พากันเดินเข้ามาที่ถนนเล็กๆ มาหยุดยืนที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง แสนเพื่อนของสิงห์ทำงานเป็นยามที่บ้านหลังนี้ พอเห็นหน้าเพื่อน ตาสิงห์ก็สบถออกมา

“แพงฉิบหาย……….นั่งรถเมล์แค่นี้ แม่งเสียเกือบ 40 บาท”
“เบาๆ สิพ่อก็……………….”
“ก็มันจริงนี่หว่า รู้งี้กูเดินไปเองซะก็ดีหรอก 40 บาท….เรา 2 คนนั่งรถไป-กลับในอำเภอได้ตั้ง 2 รอบ”
“กรุงเทพมันก็ยังงี้แหละ อะไรๆ มันก็แพง มา มา เข้ามาก่อน” ตาแสนรีบชวนทั้ง 2 เข้าบ้านพาไปแนะนำกับเจ้าของบ้าน ซึ่งเขาก็เมตตาให้ทั้งคู่พักค้างคืน แถมให้ตาแสนจัดหาอาหารเลี้ยงได้เต็มที่

คืนนั้นหลังจากออกเวร สิงห์และแสน 2 สหายก็ตั้งวงกัน จันทร์แรมลูกสาวเข้านอนแต่หัวค่ำ 2 พ่อลูก นอนค้างที่ห้องตาแสน ซึ่งความจริงมีอีกคนที่อยู่ห้องนี้นั่นก็คือคนที่มาเปลี่ยนเวรกับแสน

“เออ แสน…………มึงจะฝากกูกับลูกกูให้ทำงานกับใครวะ”
“ก็เป็นคนรับใช้บ้านนายทหารน่ะ คนรู้จักกับกูเขาบอกว่าเจ้านายเค้าต้องการคนรับใช้เพิ่ม”
“อืม….เหรอ…. กูก็ไม่เคยรับใช้ใครมาก่อน แล้วกูจะทำได้ไหมเนี่ย”
“เฮ้ย อย่าคิดมาก ได้อยู่แล้ว เป็นคนขับรถ คนสวนแบบนี้ มึงทำได้สบายเลยละ…………….พรุ่งนี้ก่อนเข้าเวรกูจะพามึงกับลูกไป”
“ขอบใจมากว่ะ” สิงห์คว้าแก้วเหล้าชนกับแสน พูดคุยสารทุกข์สุขดิบกันตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้
เจอกันมานานหลายเดือน ตาแสนก็เล่าถึงชีวิตในเมืองหลวงให้สหายฟัง ตาสิงห์ฟังอย่างตั้งใจ พอตาแสนถามถึงบ้านช่องไร่นา สิงห์ก็เล่าเรื่องราวแลกเปลี่ยนโดยไม่ปิดบัง กว่าจะนอนกันก็ดึกดื่น

พอรุ่งเช้า แสนพา 2 คนพ่อลูกไปฝากทำงานที่บ้านนายทหารคนหนึ่งย่านดอนเมือง เป็นบ้านส่วนบุคคล แต่หลังใหญ่มีอาณาเขตกว้างมาก

“โห ……..บ้านใหญ่จังเลย พ่อ ดูๆ ไปบ้านของเราอย่างกับโรงรถเขาแน่ะ”
“อือๆ เอ็งพูดจาดีๆ ทำตัวเรียบร้อยนะเว้ย เขาจะได้เมตตาสงสารเอ็ง”

บ้านหลังนี้อยู่กัน 6 คน นพพลคุณผู้ชายเป็นนายทหารชั้นนายพล ท่าทางภูมิฐาน อายุก็พอๆ กับนายสิงห์ วาสนาภรรยาเองก็หน้าตางดงามราศีคุณหญิงจับ แม้จะอายุกว่า 40 แล้วแต่ก็เหมือนอายุแค่ 30 กว่าๆ พิมพ์ผกา ลูกสาวคนโตอายุ 20 ปี เรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังในย่านรังสิต ปี 2 รสลิน อายุ17 แก่กว่าจันทร์แรมปีเดียว ลูกสาวคนกลางเรียนมัธยมปลาย ม. 5
นภดล ลูกชายคนเล็กอายุ 15 ปี เรียน ม. 3 ที่เดียวกับพี่สาว และป้าตวงคนรับใช้เก่าแก่ที่รู้จักกันกับแสน

“อืม…………….. เอาเป็นว่าสิงห์เป็นคนสวนและคนขับรถนะ ขับได้ใช่ไหม”
“ครับ ได้ครับ”
“จันทร์แรมช่วยป้าตวงเขาทำกับข้าว และก็ทำงานบ้านละกัน”
“ค่ะ……..”
“2 คนอยู่ที่นี่ให้สบาย ไม่ต้องกังวลอะไร พวกเสื้อผ้าของใช้ถ้าไม่มีก็บอกฉันหรือคุณหญิงได้เลยนะ”

สิงห์และจันทร์แรมลูกสาวจึงได้เข้าทำงานเป็นคนรับใช้ที่บ้านแห่งนี้ พร้อมกับพักอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยเลย ข้าวปลาก็กินอยู่เสร็จสรรพ นับว่าโชคดีมากสำหรับ 2 พ่อลูกจากชนบท
วันหนึ่งขณะที่สิงห์กำลังเตรียมรถไปรับคุณนพพล มีรถอีกคันขับเข้ามาเป็นรถของพิมพ์ผกาบุตรสาวคนโตของบ้าน จันทร์เห็นคนในรถเปิดประตูออก เป็นพิมพ์ผกากับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาอย่างกับนายแบบ

“พ่อ………… คุณพิมพ์เขาพาแฟนมาที่บ้าน หล่อด้วยนะพ่อ” จันทร์แอบกระซิบกับนายสิงห์
“เอ็งอย่าไปยุ่งเรื่องของเจ้านายเขา มันไม่ใช่เรื่องของเรา”
“แหม หนูแค่บอกพ่อเอง”
“คุณหนูเขาโตแล้วจะมีแฟนบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เอ็งน่ะ อย่าไปริมีผัวตั้งแต่อายุแค่นี้ละกัน……..” สิงห์กำชับลูกสาวเสียงเข้ม จนจันทร์แอบบ่นอุบอิบ

ทั้ง 2 คนอยู่ทำงานที่บ้านนั่นอย่างปกติสุข คุณชายและคุณหญิงต่างรักใคร่เพราะขยันขันแข็งทำงานกัน ทั้งคู่ ไม่มีบ่นปริปากสักคำ ป้าตวงชมให้คุณวาสนาฟังบ่อยๆ ว่าจันทร์เป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ดื้อดึง พูดจาอ่อนน้อม แถมยังขยันจนบางทีแกแทบไม่ต้องลงมือทำอะไร เด็กสาวทำเองเกือบหมด

วาสนาเคยคุยกับนพพลสามีของเธอว่า อยากจะช่วยส่งเสียให้จันทร์ได้เรียนต่อ จะได้มีความรู้มากขึ้น ซึ่งนพพลก็เห็นด้วย แต่ยังต้องถามความเห็นจากพ่อของจันทร์หรือตาสิงห์ก่อน

“แค่เจ้านายเมตตาให้พวกเราทำงาน มีบ้านอยู่มีข้าวกิน แค่นี้ ผมกับลูกก็ไม่กล้าจะเอาอะไรอีกแล้วละครับ”
“น่า……เกรงใจไปได้ เราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ฉันเห็นสิงห์เหมือนคนสนิทชิดเชื้อที่ไว้ใจได้ จันทร์ฉันก็เอ็นดูเหมือนลูกหลาน” คุณนพพลพูด
“แต่…….”
“เอาน่า ไว้ฉันจะหาโรงเรียนให้จันทร์เอง เรื่องค่าใช้จ่ายสิงห์ไม่ต้องห่วง” คุณวาสนาให้สัญญา
ตาสิงห์และจันทร์แรมต่างยกมือไหว้คุณชายและคุณหญิงด้วยความปลาบปลื้ม

……………………………………………………………………………………………………….

2 พ่อลูกทำงานที่บ้านนั่นมาได้เกือบ 3 เดือน อะไรๆ ก็ดูจะเป็นปกติเรียบร้อยดี แต่แล้ว………จนมาวันหนึ่งซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ ที่สิงห์และจันทร์แรมไม่อาจลืมเลือนได้

“ลุงสิงห์ เอารถออกหน่อย………..”
เจ้าของเสียงนั่นคือพิมพ์ผกา ลูกสาวคนโตของบ้าน เธออยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อสีขาวรัดรูปโชว์สัดส่วน กระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่า เตรียมตัวจะออกไปเรียนในตอนบ่าย

ตาสิงห์กำลังขุดหลุมปลูกต้นไม้ ด้วยความเคยชินแกจึงมักไม่ใส่เสื้อเวลาทำงานในที่ร่ม ท่อนบนจึงเปลือยหน้าอก ผิว 2 สีคล้ำ คุณหนูพิมพ์มองมาที่นายสิงห์แวบหนึ่งก่อนเดินไปหน้าบ้าน ตาสิงห์รีบทิ้งเสียมแล้วไปล้างมือ เดินไปที่โรงรถ………………………สักพัก

“รถพร้อมแล้วครับ คุณหนู……….”
“อื้อ ลุงขับไปส่งฉันทีนะ”
“หา…” ตาสิงห์แปลกใจ เพราะทุกทีพิมพ์ผกาจะขับรถไปมหาลัยเอง
“งงอะไรล่ะ หรือว่าขับรถให้พ่อได้ แต่ขับให้ลูกไม่ได้”
“เอ่อ………ไม่ใช่อย่างงั้นครับ …….” ตาสิงห์เดินเกาหัวแกรก ก่อนจะไปแต่งตัว

พอสิงห์กลับมาที่รถ คุณหนูใหญ่เธอไปนั่งรอในรถแล้ว ตาลุงคนใช้ รีบเปิดประตูหน้าบ้าน สตารท์รถขับออกไป……………..

ในรถ พิมพ์ผกานั่งไขว่ห้างที่เบาะหลัง มองอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่สายตาเธอมาหยุดอยู่เบื้องหน้า ก่อนออกเสียงดุๆ

“ตาสิงห์มองอะไรฉัน”
“อ่า เปล่าครับเปล่า……”

สิงห์รีบเบือนหน้าหลบพิมพ์ผกา เพราะแกคอยแอบชำเลืองดูหญิงสาวทางกระจกมองหลัง เพราะ คุณพิมพ์เธอแต่งตัวซะ….เหมือนกับจะไม่ได้ไปเรียน ตาสิงห์ถึงแม้จะอายุมากแต่ไม่ได้หมายความว่าไฟราคะจะมอดลงตามวัย กลับกันมันยังไหลเวียนในร่างรอเวลาที่จะปะทุขึ้นอีกครั้ง ขาอ่อนเรียวยาว หน้าอกเต่งตึงได้รูป ใบหน้าหมดจดไม่มีสิวฝ้า ล้วนเป็นตัวก่อกิเลสในใจของตาแก่วัย 58 ทั้งสิ้น

..นั่นลูกสาวเจ้านาย คุณหนูพิมพ์ผกานะโว้ย มึงอยากโดนไล่ออกหรือสิงห์...สิงห์พยายามขจัดความคิดชั่วๆ ก่อนตั้งใจขับรถพาคุณหนูพิมพ์ผกาจนไปถึงมหาลัย

“สิงห์รอฉันที่รถนี่แหละ” พิมพ์ผกาหันมาบอกกับสิงห์ ก่อนจะเดินเข้าตึกเรียน
“เอ๋ …………แต่ผมต้องไปรับคุณนพพลและคุณหนูรสลินกับคุณนพดลนะครับ”
“ฉันรู้แล้ว แต่วันนี้ฉันมีเรียนวิชาเดียว บ่าย 3 ก็เลิก ออกจากนี่ก็แวะรับพวกคุณพ่อต่อได้เลย”
“อ๋อ ครับๆ”

พิมพ์ผกาพูดเสร็จก็เดินถือกระเป๋าเล็กๆ อีกมือถือแฟ้มหนังสือพาร่างสะโอดสะองจากไป ปล่อยให้คนรถยืนงงอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง………………………………

เวลาผ่านไป ตาสิงห์เวียนลุกเวียนนั่งบนเก้าอี้ใต้ต้นไม้ รอคุณพิมพ์เลิกจากเรียนโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ มองดูนาฬิกาข้อมือ บ่าย 2 .50 แล้ว คงใกล้เวลาเลิกเรียนของเจ้านายสาว
สักครู่ นายสิงห์เห็นพิมพ์ผกาเดินออกมาจากตึกเรียนพร้อมเพื่อนๆ อีก 3 คน สิงห์เดินไปเปิดประตูให้และขับรถออกจากมหาลัย มุ่งตรงไปที่ รร. ของรสลิน และนพดลก่อนแวะรับคุณนพพลเป็นคนสุดท้าย

“นี่ ลุงแวะร้านมินิมาร์ทหน่อย ฉันจะซื้อของ” พิมพ์ผกาบอกตาคนขับรถเมื่อรถจอดติดไฟแดงใกล้ๆ ตลาด
“งั้นผมแวะร้านเซเว่นข้างหน้าให้ครับ” พอถึง.พิมพ์ผกาเดินลงจากรถชะโงกหน้าถาม
“แล้วสิงห์จะเอาอะไรบ้าง ฉันจะซื้อมาให้”
“ไม่หรอกครับ เชิญคุณหนูตามสบายเถอะ”
“ไม่ต้องเกรงใจน่า จะกินอะไรบอกมาเลย ฉันเลี้ยงเอง”
“แต่ผมไม่……..”
“นี่ ………….ลุงอย่าขัดใจฉันได้ไหม” คุณหนูมองหน้าตาสิงห์เขม็ง เอ่ยเสียงเข้ม

..ตายแล้ว กูเอ้ย. เราบอกว่าไม่เอาอะไรก็ยังยัดเยียดอีก ให้ตายสิเด็กคนนี้... สิงห์นึกในใจ ก่อนจะตอบ

“เอ่อ…….งั้นผมขอโค้กกระป๋องหนึ่งละกันครับ”
“ดีมาก” คุณพิมพ์ผกายิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินเข้าร้าน สิงห์มองตามแล้วก็บ่นพึม
..เฮ้อ อยู่กับคุณพิมพ์นี่ เหนื่อยแฮะ...

หญิงสาวหายไปสักพักจึงเดินออกมาพร้อมถุงใบใหญ่มาถึงก็ส่งโค้กให้
“เอ้า นี่”
“ขอบคุณมากครับ” ตาสิงห์ดื่มโค้กไปอึกหนึ่งก่อนจะติดเครื่องรถมุ่งหน้าไปที่ รร. ของน้องสาวและน้องชายคุณพิมพ์ผกา
..ที่ รร. รสลินกับนภดล ยืนรอที่หน้า รร. อยู่แล้ว...

“อ้าว พี่พิมพ์มาด้วยหรือครับ”
“อื้อ ให้สิงห์เขาไปส่งพี่ที่มหาลัย แล้วมารอรับพ่อกับน้องด้วยเลย เอ้านี่………ของกิน”

ทั้ง 3 พี่น้องนั่งกินนั่งดื่มกัน ตาสิงห์คนขับรถของเราก็ขับไปโดยไม่ปริปากอะไรออกมาจน…..
“นี่ ลุงสิงห์คุ้นถนนหนทางในกรุงเทพยังล่ะ” รสลินลูกสาวคนรองเอ่ยถาม
“ก็……พอจะรู้มากแล้วละครับ แต่เสียอย่างเดียวรถติดจริงๆ”
“แต่ก็ขับดีแล้วนี่ครับ ลุง” นภดลเสริมพี่สาว

ว่าไปแล้ว นภดลและรสลิน นี่ทำตัวเป็นกันเองกับนายสิงห์มากกว่าพี่สาวเยอะ ไม่ถือตัว บางทีก็ลงท้ายครับ คะบ่อยๆ เวลาคุยกัน จนตาสิงห์รู้สึกเกรงใจ 2 คนนี้มาก
ส่วนพิมพ์ผกา ตาสิงห์ไม่ค่อยจะคุยด้วยเท่าไหร่ เพราะดูเธอออกจะหยิ่งนิดๆ แต่ก็ไม่ได้มีพิษสงอะไร คงเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่า

“ใช่ ขับดีแถมมีสมาธิสูง………….” พิมพ์ผกาเอ่ยปากเป็นคนสุดท้ายด้วยเสียงเรียบๆ

หวาย.. นี่จะประชดที่เราแอบมองเธอหรือเปล่านี่……………………… ตาสิงห์คิดด้วยความหวั่นใจในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้………………………………………………….

“เออ มาพร้อมกันหมดเลยนะ”
คุณนพดลเอ่ยทักทันทีที่รถจอดหน้ากองบัญชาการกองทัพที่ทำงานของเขา
พิมพ์เปลี่ยนไปนั่งเบาะหน้า ให้น้องๆ นั่งกับพ่อข้างหลัง ระหว่างทางกลับบ้านคุณนพพลพูดขึ้น

“อืม……….. พ่อคิดนะ…..เราควรจะหาเวลาไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง”
“ไปเที่ยวที่ไหนละคะพ่อ” พิมพ์ผกาหันหลังไปถาม
“พ่อก็แค่คิดเอาไว้……..แต่ค่อยไปคุยกันที่บ้านต่อละกัน พ่อเองก็อยากจะพักผ่อนบ้าง”
“เย้.. ได้ไปเที่ยวแล้ว” นพดลกับรสลินพูดแทบจะพร้อมกัน

ระหว่างที่พิมพ์ผกาหันหลังไปนั่นเอง หน้าอกของเธอก็เอี้ยวตามจนมาหยุดข้างๆ ตาสิงห์ตาแก่ของเราจึงแอบชำเลืองมองด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน อุแม่เจ้า.. นมแม่งใหญ่ฉิบหาย...
คราวนี้ตาสิงห์ไม่เหลือบมองนาน ทั้งที่ใจอยากจะมองเต็มๆ ตา เพราะจะทำให้คุณพิมพ์สงสัยได้ แต่ดูเหมือนพิมพ์ผกาจะรู้การกระทำของตาเฒ่าสิงห์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนกระทั่งถึงบ้าน
วันอาทิตย์ ขณะที่ตาสิงห์กำลังเช็ดรถของคุณพิมพ์ผกา...พิมพ์เดินออกมาที่หน้าบ้านเตรียมตัวจะออกไปชอปปิ้ง งานอดิเรกของเธอ พลันสายตาเหลือบไปเห็นร่างกำยำสูงใหญ่ของสิงห์เข้า ถึงแม้ว่าจะอายุ 58 แล้ว แต่ยังคงกล้ามเนื้อบึกบึนเยี่ยงชายหนุ่มวัยฉกรรจ์

เพราะอยู่บ้านนอก ตาสิงห์ไม่ใช่คนอยู่นิ่ง ชอบขวนขวายหางานทำตลอด บางทีก็ไปรับจ้างเป็นกรรมกรตามหมู่บ้านต่างๆ หรือในต่างอำเภอ อีกทั้งแกชอบออกกำลังกายมาก ทุกวันหลังจากเลิกงาน แกมักจะไปออกวิ่ง วิดพื้นบริเวณใกล้ๆ หน้าบ้าน

เมื่อพิมพ์ผกาเห็นหน้าอกและท่อนแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั่นเข้า ก็อดที่จะแอบชำเลืองมองไม่ได้ ความจริงเธอมักจะเห็นตาสิงห์ถอดเสื้อทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากคิดว่า นายสิงห์รูปร่างบึกบึนสมชายชาตรีทั้งที่มีอายุมากแล้ว แต่คราวนี้พิมพ์ผกาเธอกลับมีความคิดที่พิเศษกว่านั้นต่อนายสิงห์……………………… จะด้วยอะไรนั้น ก็ยังไม่ทราบ

“อ้าว. คุณหนูพิมพ์ จะออกไปข้างนอกหรือครับ” สิงห์เอ่ยทักเมื่อลูกสาวเจ้านายเดินมาใกล้ๆ
“อื้อ. ฉันจะออกไปซื้อของหน่อย”
“เอ้อ.. ผมเช็ดรถเสร็จพอดี เชิญเลยครับ”
“ลุงสิงห์มีงานอะไรทำต่อไหม”
“อ๋อ……… ก็ตัดหญ้ารอบๆ บ้านน่ะครับ”
“งั้นเอาไว้ทำทีหลังละกัน เดี๋ยวลุงออกไปกับฉัน……………”
“หา เอ่อ.. ให้ผมไปกับคุณหนูหรือครับ”
“ใช่สิ ลุงไปขับรถให้ฉันหน่อย ฉันรู้สึกปวดขา”
“ครับ ได้ครับ งั้นผมขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน” เฮ้อ ปวดขาแต่จะไปเดินซื้อของ วุ้ย…………
“อื้อ ฉันก็จะไปเปลี่ยนชุดด้วย”

ลุงสิงห์ยืนรอที่รถ สักครู่ พิมพ์ผกาก็ออกจากบ้าน พาร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อแขนกุดสีส้ม กระโปรงสั้นรัดรูปสีขาว เห็นขอบกางเกงในรางๆ ตาสิงห์มองแล้วให้รู้สึกวาบหวิวในใจจริงๆ

ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ พิมพ์นั่งที่เบาะหลัง เธอเหมือนจะจงใจแกล้งนั่งแหกขาออกนิดๆ ตาสิงห์เหลือบเห็นทางกระจกมองหลัง แล้วก็แทบตาถลน เพราะคุณพิมพ์นั่งแยกขาจนกระโปรง
มินิสเกิรต์ร่นขึ้นจนมองเห็นกางเกงในสีชมพูอ่อน ตาเฒ่าพยายามหลบสายตาจากเรียวขาอ่อนและร่องหลืบในหว่างขาของสาวน้อย ตั้งสมาธิขับรถเพียงอย่างเดียว

แต่ประสาของผู้ชายที่เหินห่างเรื่องแบบนี้มานาน ทำให้สายตาของเฒ่าสิงห์อดที่จะแอบมองไม่ได้ เหมือนพิมพ์ผกาจะรู้ว่าคนขับรถแอบมองชั้นในของเธออยู่ จึงค่อยๆ ขยับขาออกกว้างขึ้นอีกนิดหนึ่ง แต่เบือนใบหน้าออกนอกรถซะ ตาสิงห์แอบจ้องมองจนเกือบจะเบรครถเมื่อถึงสี่แยกไฟแดงไม่ทัน ท่อนลำหน้าขาของตาเฒ่าเริ่มลุกจากการหลับใหลอันยาวนาน

..นี่กูคิดอะไรอยู่วะ นั่นลูกสาวเจ้านายนะโว้ย มึงอย่าคิดชั่วๆ เด็ดขาด ไอ้สิงห์...พระเอกของเรื่องพยายามเตือนสติตัวเอง ข่มใจให้สงบนิ่งตั้งหน้าตั้งตาขับรถเพียงอย่างเดียว สาวน้อยพิมพ์ผกาเห็นกิริยาของตาเฒ่าก็แอบยิ้มนิดหนึ่งแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา จนถึงที่หมายที่ห้างดังย่านรังสิต

“ผมจะรอคุณพิมพ์ที่รถนี่นะครับ”
“จะรอทำไมที่รถเล่า ลุงมากับฉันนี่แหละ เดี๋ยวเวลาซื้อของฉันจะให้ลุงช่วยถือ”
“อ้อ ครับๆ”

ตาสิงห์มองร่างของสาวน้อยคราวลูกเดินนำหน้าด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน เพราะพิมพ์ผกานุ่งกระโปรงสั้นจนขาอ่อนเรียวงามออกมาอวดสายตาทุกคนที่เดินผ่าน ผมยาวสลวยเกือบถึงเอวแกว่งไกวตลอดเวลาที่เธอย่างก้าว หนุ่มๆ ในห้างอดที่จะมองไม่ได้

นายสิงห์เดินตามพอเว้นระยะ พิมพ์ผกาเดินดูเครื่องสำอาง ก็ต้องเดินตาม แต่พอมาถึงแผนก ชุดชั้นในสตรีนี่สิ ตาสิงห์แทบจะวิ่งหนี เพราะรู้สึกอายที่เป็นผู้ชายแต่ต้องมายืนหน้าแผนกชั้นในผู้หญิง ตาสิงห์แก้ไขปัญหาด้วยการหันหน้าไปมองที่อื่น

“นี่ ลุงจะซื้อไปฝากจันทร์บ้างไหม”
“ไม่หรอกครับ ให้จันทร์มันมาซื้อเองดีกว่า ผมไม่กล้าหรอก”
“แหม………. อายไปได้ งั้นเดี๋ยวฉันขอลองชุดก่อนนะ”
“งั้นผมไปยืนดูอะไรแถวนี้ละกันครับ” นายสิงห์พูดเสร็จก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้พิมพ์ผกาแอบยิ้มอยู่ข้างหลัง สักพัก…………

“เอ้า ถือให้ฉันด้วย” พิมพ์ส่งถุงใส่ชุดชั้นในที่เธอซื้อมาให้สิงห์ถือ ตาสิงห์ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงก็รับมา พิมพ์ผกาพาตาสิงห์เดินเลือกซื้อของหลายอย่างจนพอแก่ความต้องการจึงพากันกลับ

“ฉันซื้อมาเผื่อจันทร์เขาด้วยละ” พิมพ์ผกาบอกขณะตาสิงห์กำลังเอาของไว้ที่ท้ายรถ
“ซื้ออะไรมาให้จันทร์หรือครับ”
“อยู่ในถุงนี่แหละ” นายสิงห์รับมาดู เฮ้ย. นี่มันยกทรงกับกางเกงในนี่หว่า

ตาสิงห์รีบพับถุงเก็บพร้อมสตารท์รถขับกลับบ้าน คุณหนูพิมพ์ผกานั่งมองคนขับรถพลางใช้ความคิดอยู่ข้างหลัง และเธอก็ยิ้มออกเหมือนคิดอะไรได้……
พิมพ์ผกาคิดอะไรอยู่กันแน่?……………..………………………………………………

คืนนั้น มีคนอยู่บ้านแค่ 3 คน คือนายสิงห์กับพิมพ์ผกา และจันทร์แรม

คุณนพพลกับคุณวาสนาไปงานเลี้ยงของสโมสรกองทัพ รสลินไปดูหนังกับเพื่อน นภดลไปทำการบ้านกับเพื่อนที่บ้านใกล้ๆ ป้าตวงลากลับบ้าน จะมาอีกทีก็เช้ามืดพรุ่งนี้ จันทร์แรมนั่งดูทีวีที่ห้องรับแขก

ประมาณ 2 ทุ่ม ยังไม่มีใครกลับมา..
ตาสิงห์อาบน้ำในห้องน้ำในเรือนคนใช้ ด้วยความที่เป็นคนบ้านนอกคอกนา แกจึงไม่ได้ล็อคประตูห้องน้ำ เพียงแต่แง้มประตูไว้พอมองเห็นข้างนอก ระหว่างที่อาบ ตาเฒ่าคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน ที่คุณพิมพ์นั่งหวอออกให้เห็น ทำให้แกอดที่จะคว้าควยขนาด 8 นิ้วออกมาชักไม่ได้ สมองจินตนาการ มือก็สาวควยไปด้วย ปากส่งเสียงครางเบาๆ สลับกับพร่ำเพ้อ

..อู ยย... คุณหนูพิมพ์ อยากเห็นหีของหนูเต็มๆ ตาจริงๆ จะใหญ่แค่ไหนหนอ ถ้าได้เย็ดสักที ตาแก่คนนี้จะไม่ลืมพระคุณเลย……… นายสิงห์เริ่มสาวควยถี่ยิบ ตัวเกร็งเท้าแทบไม่ติดพื้น มืออีกข้างพิงผนัง หลับตาสูดปากเบาๆ ขณะที่ตาสิงห์กำลังจะใกล้ถึงสวรรค์น้ำเงี่ยนจะกระฉูดนั่นเอง

“ว้าย……….” เสียงนี้เป็นเสียงหญิงสาวคนหนึ่ง ร้องด้วยความตกใจอะไรสักอย่าง

เสียงที่ดังนอกห้องน้ำทำให้ตาสิงห์ตกใจแทบช็อค เพราะที่หน้าห้องน้ำ พิมพ์ผกาลูกสาวคนโตยืนอยู่ที่นั้น ดวงตาของเธอเบิกโตด้วยความตกใจ สลับกับความตื่นเต้นที่ได้เห็นแท่งควยขนาดมหึมาขนาดนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิต แม้แต่แฟนของเธอก็ยังไม่ใหญ่เท่านี้

“ตายแล้ว คุณหนู ทำไมมาอยู่ที่นี่ครับ”
ตาสิงห์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ยังพอมีสติรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่อกายทันที ท่อนแข็งมันยังดันผ้าเช็ดตัว จนเห็นเป็นลำยาว พิมพ์ผกาแอบกลืนน้ำลายลงคอ จ้องตาไม่กระพริบ
“ขอโทษ………… แต่ลุงไม่ล็อคประตูนี่ ฉันเดินผ่านมาและก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อฉันด้วย”

ว้าก……….. ตาย. คุณพิมพ์ได้ยินเสียงของเราพร่ำเพ้อถึงเธอ
โอ้ย..............ตายแน่ แล้วนี่กูจะทำยังไงดี ถ้าเธอเอาเรื่องไปบอกพ่อแม่ของเธอ เรากับจันทร์ได้มีหวังโดนไล่ออกจากบ้านแน่
โธ่.............. สิงห์เอ้ยสิงห์...

ตาสิงห์ยืนคิดต่างๆ นาๆ ในห้องน้ำ แต่พิมพ์ผกาก็ยืนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น ใบหน้าแดงซ่าน เพราะได้เห็นท่อนควยขนาดเกือบเท่าข้อมือของเธอเต็มๆ ตาเลยทีเดียว แถมหัวมันยังบานใหญ่สีแดงสด พิมพ์อดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ หล่อนคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งและก็เอ่ยปากเสียงสั่นๆ

“เอ่อ…… ลุง….ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว ไปดูหลอดไฟที่ห้องฉันหน่อยนะ มันติดๆ ดับๆ ยังไงไม่รู้”
“ครับ…….. เดี๋ยวผมจะตามไปครับ”

พิมพ์พูดเสร็จ ก็รีบเดินจ้ำอ้าวกลับขึ้นห้องของเธอด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะทำไงดีวะ สิงห์เอ้ย.. แบบนี้กูจะมองหน้าติดได้ยังไง นึกขึ้นมาตาสิงห์ก็รู้สึกละอายใจ
ออกจากห้องน้ำใส่เสื้อผ้าคว้าเครื่องมือเดินขึ้นไปบนบ้าน
…………………………………………………………………………………………………….

เสียงที่ประตูดังขึ้น สาวน้อยรีบเดินไปเปิดประตูทันที ร่างใหญ่กำยำสูงถึง 180 ซม.ของเฒ่าสิงห์ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเธอ สาวเจ้าถอยหลังนิดหนึ่ง เมื่อตาสิงห์เดินเข้ามาที่ห้องก็ถามทันที

“หลอดไฟดวงไหนครับ”
“หลอดกลางนั้นแหละ ลุง”

ตาสิงห์ขอเก้าอี้ในห้องพิมพ์ ปืนขึ้นดูหลอดไฟ ดูไปดูมาก็รู้ว่าหลอดใช้งานมานานจนเสื่อม

“อ๋อ…….หลอดมันเสื่อมแล้วน่ะครับ เดี๋ยวผมเปลี่ยนให้”
“ระวังด้วยนะ”

ปากสั่งแต่ตา 2 ข้างของพิมพ์สาวน้อยวัยแรกรุ่น จับจ้องที่ท่อนควยมหึมาที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขายาวแบบที่ชาวชนบทเขาใส่กัน มันนูนเด่นออกมาเหลือเกิน หล่อนจินตนาการว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ในช่องหีของเธอ มันจะมีความสุขสุดยอดแค่ไหนกันนะ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ พิมพ์รู้สึกว่าหว่างขาของเธอเริ่มคันยุบยิบแล้ว สาวน้อยยังมองท่อนเอ็นของชายแก่คราวพ่อไม่วางตา เธอหายใจแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ มือไม้แข้งขาสั่น ทำยังไงเธอถึงจะได้ลิ้มลองดุ้นยักษ์ตรงหน้าให้สมอยาก ครั้นเธอจะออกปากชวนเองเล่าก็ให้รู้สึกกระดากอาย แต่คำที่ว่าด้านได้อายอด มันคงจะเป็นจริง

ตาสิงห์พอเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จก็ลงจากเก้าอี้ เตรียมจะออกจากห้อง

“เดี๋ยวสิลุง………….”
“อะไรหรือครับ คุณหนู”
“ฉันอยากถามอะไรลุงซะหน่อย”
“อ่า………ครับ”
“เมียของลุงเสียไปนานแล้ว ลุงไม่เหงาบ้างหรือ”

..เอ๊ะ. ไหงคุณหนูถามเราแบบนี้หว่า …………อื้อ…….ไม่มีอะไรน่า……ตาสิงห์คิดแล้วก็ตอบไป

“อ๋อ ก็มีเหงาบ้างน่ะครับ แต่ทำไงได้ ……………..”
“แล้วทำไมไม่ไปเที่ยวล่ะ”
“โอ้ย.. ไม่เอาหรอกครับ มันแพง แถมผมก็กลัวโรคด้วย อีกอย่างผมยังมีลูกสาวที่ต้องคอยดูแล”
“ดีแล้วหละที่ลุงคิดได้แบบนี้” และพิมพ์ผกาก็ยิ้มให้อย่างชื่นชม จนนายสิงห์อดที่จะเขินไม่ได้
“เฮ่อ ………..พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ เหงาจังเลย” พิมพ์ผกาเริ่มแผนการของเธอพึมพำพอให้นายสิงห์ได้ยิน ตาเฒ่าตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดจึงบอกลา

“งั้นถ้าไม่มีอะไรใช้ผม ผมก็ไปก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนเล่า อยู่คุยกันก่อนไม่ได้หรือไง”
“เอ่อ.. มันไม่ดีมั้งครับ ถ้าคุณชายกับคุณหญิงรู้เข้า…………..”
“จะให้พ่อกับแม่รู้ทำไมล่ะ ถ้าฉันไม่บอก ลุงไม่บอกแล้วใครจะรู้”

ชักท่าไม่ดีซะแล้วสิวะ เธอจะคุยอะไรกับเรา……….หรือว่า……………. คงไม่ใช่………

“ฉันถามหน่อยสิ เมื่อตอนนั้น ลุงทำอะไรอยู่”
“ตอนนั้น ตอนไหนครับ” จิตใจของชายแก่ชักหวั่นๆ
“ก็ที่ลุงทำในห้องน้ำไง”
“หา……….เอ่อ.. คือผม” ตาสิงห์อึกอัก เอาละสิกู คุณหนูพิมพ์เห็นเรากำลังชักว่าวจริงๆ ด้วย
“ปละ เปล่าครับ คือ…………” จะทำอย่างไงดีวะเนี่ย เท้าตาสิงห์ถอยหลังเล็กน้อย
“อย่าบอกว่าเปล่านะ ฉันได้ยินหมดแล้ว ลุงสิงห์น่ะอยากเย็ดหีฉันหรอ”
“ว้ากก ลุงไม่กล้า……………” คุณพิมพ์ผกากล้าพูดแบบนี้ออกมาตรงๆ เชียวหรือ
“เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ” พิมพ์ผกามองหน้าเขม็งแต่ไม่ได้มีแววโกรธอะไรเลย ตรงกันข้าม เธอกำลังจะเชิญชวนให้นายสิงห์ผู้มีควยใหญ่ 8 นิ้ว มาเล่นเสียวด้วยกันต่างหาก

“ผม………”
“เฮ่อ……….. พ่อกับแม่ไม่อยู่ ตอนเนี้ย………….ทางสะดวกนะลุง”

พิมพ์ผกาเสียงอ่อนลง ตาเธอจับจ้องที่เป้ากางเกงของนายสิงห์และเหลือบใบหน้ามอง ด้วยสายตาเหมือนจะวิงวอนอะไรสักอย่าง

ตาสิงห์คิดๆ ดู นี่คุณพิมพ์คงจะให้ท่าเราแล้วสิ แต่จะแน่ใจได้หรือ ถ้าเธอแค่ลองใจเรา แล้วเราทำอะไรขึ้นมา เกิดมันไม่ใช่ มีหวังหัวกุดเชียวนะ

“ฉันเห็นควยของลุงแล้ว มันช่างใหญ่ยาวอะไรอย่างนี้ …ฉันอยากขอดูอีกครั้งได้ไหมจ๊ะ”
“ผม ผม ผม………….” หรือว่าเธอจะ...
“เนี่ย ……………ตั้งแต่ฉันเห็นควยของลุง มันก็เป็นอย่างนี้แหละ”

พูดจบ พิมพ์ผกาเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน รูดซิบกางเกงขาสั้นสีเหลืองออก ชั้นในสีฟ้าอ่อนตัวที่เธอซื้อมาใหม่วันนี้ อวดโฉมสวยงามให้ตาเฒ่าเห็นจนนัยน์ตาแทบทะลัก กลุ่มขนหมอยดำขลับเรียงตัวซ่อนอยู่ข้างในแต่มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นบริเวณเป้า เนินเนื้อโหนกนูน ตาสิงห์ตาเบิกโพลง ความกดดันที่ผ่านๆ มากำลังจะถูกปลดปล่อย……….

“อื้อหือ………..หีเยิ้มอย่างงี้ …………” นายสิงห์พึมพำอย่างกับคนละเมอ ควยลุกตั้งเด่
“เห็นแบบนี้แล้วถ้ายังเฉยอยู่อีก ลุงสิงห์น่ะ……” พิมพ์ผกาเว้นระยะ “…….ไปบวชซะดีกว่านะ”

คุณหนูร่านสวาทยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก พูดจาท้าทายเสือเฒ่า กูมั่นใจแล้วเว้ย.. คุณหนูเชิญชวนให้เย็ดถึงขนาดนี้ ถ้าไม่ตอบสนองกูก็ไม่ใช่ผู้ชายละวะ...
ตาสิงห์ทิ้งกล่องเครื่องมือแล้วเดินตรงเข้าสวมกอดร่างของเด็กสาวที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง

“อุ๊ย……..ลุงละก็ เบาๆ หน่อยสิ”